20 สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการ ออกแบบโลโก้
Last updated
Was this helpful?
Last updated
Was this helpful?
การนั้นถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งโจทย์ที่ยากสำหรับนักออกแบบ การออกแบบ Logo นั้นมีความยากในการออกแบบมากกว่ากราฟิกประเภทอื่น เพราะต้องคำนึงถึง สี รูปร่าง และความหมายที่แฝงมากับ Logo อีกด้วย เพราะว่าโลโก้นั้นกระบวนการคิดจะตั้งซับซ้อนมากกว่าออกแบบ Artwork ทั่วไป นั่นก็เพราะ การออกแบบโลโก้ นั้นจะต้องคิดถึงความหมายที่แอบแฝง สี รูปร่าง เพื่อให้เหมาะสมกับภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือธุรกิจนั้นๆ เพราะฉะนั้นการ ออกแบบโลโก้ นักออกแบบจะต้องมีพื้นฐานในการออกแบบอยู่พอสมควร ถึงจะสามารถ ออกแบบโลโก้ ให้ออกมาได้ดี แต่ถ้าใครยังไม่มีพื้นฐานหรือทักษะที่ดีเยี่ยม วันนี้เอสกิโมจะมาบอก 20 สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการ ออกแบบโลโก้ 1 จดจำได้ง่าย โลโก้เป็นตัวบ่งบอกถึงธุรกิจของคุณว่าแตกต่างจากธุรกิจอื่นๆหรือคู่แข่งขนาดไหนและ โลโก้ที่ดีจะต้องสามารถทำให้คนจดจำแบรนด์ธุรกิจของคุณได้แม้ว่าจะทำการขับรถผ่านหรือเห็นผ่านๆก็ต้องจดจำให้ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาเห็นโลโก้ของ Apple แล้วเราคิดถึง iPhone คิดถึง Macbook แต่พอเราเห็นโลโก้อื่นๆที่มีรูปร่างคล้ายกันเราก็จะคิดถึง Apple ก่อน เพราะโลโก้นั้นถึงจดจำโดยสมองเราไปแล้ว 2 คอนเซ็ปต์ชัดเจน
แน่นอนว่าก่อนที่เราจะต้องการทำโลโก้ เราต้องมีแบรนด์ มีชื่อธุรกิจ หรือชื่อองค์กร เป็นตัวตั้งต้นในใจอยู่แล้ว หลังจากนั้นการทำโลโก้ ถือเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมอันดับต้นๆ ที่จะสื่อสารชื่อ และทำให้แบรนด์ของคุณเกิดภาพจำในใจผู้บริโภค เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรรู้ อันดับแรก ! 3 ตัวอักษรบนโลโก้สำคัญมาก ฟ้อนต์ในโลโก้นั้นสำคัญมากๆเพราะมันสามารถที่จะส่งเสริมหรือทำลายโลโก้ของเรานั้นได้ในทันทีหากเราเลือกที่ไม่เหมาะสมกับบุคลิคของธุรกิจ เทคนิคง่ายๆของการใช้ฟ้อนต์กับโลโก้เราควรจะใช้ฟ้อนต์ไม่เกิน 10 – 20 ตัวอักษรเท่านั้น เพื่อไม่ให้โลโก้ของเรานั้นดูไม่รกและไม่อึดอัดจนเกินไป ขนาด , ระยะห่าง และน้ำหนักของตัวอักษรจัดให้ดีเพื่อส่งเสริมโลโก้และธุรกิจของเรา 4 อารมณ์ของแบรนด์ บางธุรกิจค่อนข้างมีอารมณ์หลักเป็นมาตรฐาน เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับกีฬา ก็คงจะหนีไม่พ้น อารมณ์ สนุก เร้าใจ มีพลัง แต่ทั้งนี้ ก็ไม่แปลกถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจกีฬา แล้วจะต้องการให้แบรนด์มีความ หรูหรา หรือ เป็นมิตร อันใดอันหนึ่งอยู่หรือธุรกิจขนม อาหาร คุณสามารถเลือกอารมณ์ คอนเซ็ปต์ได้ตามที่ต้องการ อาจจะสนุก หรือเท่ห์ก็ได้ 5 เลือกสีให้เหมาะสม สีทุกสีมีความหมายทำให้เรามองโลโก้แล้วรู้สึกถึงสิ่งที่กำลังถูกสื่อออกมา พยายามเลือกสีให้เหมาะสมและดูบ่งบอกถึงธุรกิจของเรา เพราะสีที่เราเลือกนั้นจะถูกจดจำไปในองค์กรตลอดไป เทคนิคง่ายๆสำหรับคนที่ยังไม่มีพื้นฐานแนะนำว่าควรเข้าใจทฤษฏีการใช้สีและความหมายของสีแต่ละสีเสียก่อน 6 คุมโทนสี อารมณ์ของสี โทนสีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานออกแบบทุกชนิด เพราะโทนสีที่ต่างกัน ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันไปด้วย ถ้าคุณมีสีในใจสำหรับแบรนด์ของคุณแล้ว ก็จัดเลย บอกนักออกแบบให้เคลีย 7 อย่าใช้ Effect บนโลโก้เยอะเกินไป โลโก้นั้นต้องการความเรียบง่ายและความหมายที่ดูแล้วสามารถจดจำได้ง่าย อย่าพยายามใช้ Effect แปลกๆบนโลโก้เพราะนั่นจะทำให้โลโก้ของเรานั้นดูไม่มีพลังเลย 8 การใช้ฟ้อนต์
ฟ้อนต์เป็นอีก 1 องค์ประกอบของ "โลโก้" ที่ต้องเลือกให้ถูกอารมณ์ ความรู้สึก สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ในข้อ 1 นั่นแหละ ฟ้อนต์มีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น สไตล์โค้งมน / เหลี่ยม / มีฐาน / ตัวเขียน หรืออื่นๆ
แต่สำหรับข้อนี้คุณไม่จำเป็นต้องระบุ ว่าคุณอยากได้ฟ้อนต์สไตล์ไหน เพราะนี่เป็นหน้าที่ของนักออกแบบ และนักออกแบบที่ดีจะมี Sense ของการเลือกฟ้อนต์ให้เหมาะกับอารมณ์ที่คุณต้องการอย่างแน่นอน 9 ออกแบบโลโก้จากพื้นหลังสีขาว เริ่มแรกออกแบบพยายามใช้พื้นหลังสีขาวก่อนเพราะนั่นจะสามารถทำให้เราเห็นองค์ประกอบต่างๆของโลโก้ได้ชัดมากขึ้น หลังจากออกแบบบนพื้นหลังสีขาวเสร็จแล้วค่อยนำไปต่อยอดทำอย่างอื่นต่อเช่น พื้นหลังสีดำหรือทำเป็นลายไม้ สิ่งเหล่านี้จะมาคอยช่วยส่งเสริมโลโก้ของเราในภายหลัง 10 มีความหมายแฝง
นับว่าเป็นงานหลัก และเป็นหน้าที่ของนักออกแบบอย่างแน่นอน ที่จะต้องถ่ายทอดแบรนด์ของคุณออกมายังโลโก้ และสามารถอธิบายได้ว่า รูปทรงที่เลือกใช้นั้น มีความหมายอะไร หรือแฝงความหมายอะไรที่เกี่ยวกับแบรนด์ไว้
11 เล่นกับพื้นที่ว่าง ลองเล่นกับพื้นที่ในตัวโลโก้ให้มีความหลากหลายมากขึ้นและที่สำ คัญต้องทำ ให้โลโก้เกิดความสมดุลของการจัดวาง การเล่นกับพื้นที่ว่างนั้นจะสามารถทำ ให้โลโก้ที่เป็นตัวอักษรดูไม่อึดอัดจนเกินไป 12 มีตัวเลือก
ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของแบรนด์ ที่กำลังจะมีโลโก้ดีๆ ซัก 1 โลโก้ ไว้เป็นหน้าเป็นตาให้กับแบรนด์ของคุณ การที่นักออกแบบมีทางเลือกให้เพียง 1 ทางเลือกนั้นคงไม่เพียงพอ เพราะคุณจะไม่มีโอกาสเปรียบเทียบในใจเลยว่าอันไหนคือรูปแบบที่คุณชอบ และเหมาะกับคุณมากกว่า
ดังนั้นนักออกแบบ ควรออกแบบหรือดีไซน์โลโก้ตามรายละเอียด คอนเซ็ปต์ต่างๆ ที่เจ้าของแบรนด์วางเอาไว้ ซัก 3 ทางเลือก ไม่เยอะ และไม่น้อยจนเกินไปนะ 13 อย่าใช้สีเยอะเกิน สีเยอะๆดูสวยดีแต่กับโลโก้นั้นไม่ใช่ โลโก้ที่ดีหรือโลโก้ระดับโลกนั้นสังเกตได้เลยว่าใช้สีไม่เกิน 1 – 2 สี เพียงเพื่อต้องการให้คนจดจำกับสีนั้นไปตลอดเวลา 14 มีอายุยืนยาวขนาดไหน
แน่นอนว่าคงไม่มีแบรนด์ไหนที่เปลี่ยนโลโก้ทุกปีเพื่อให้ลูกค้างงเล่น เพราะฉะนั้นนักออกแบบโลโก้ต้องคิดเสมอว่าในอีก 5 ปี, 10 ปี, 20 ปี โลโก้ของเราจะยังดูดีอยู่มั้ย
การเลือกดีไซน์โลโก้ตามเทรนด์ประจำปี หรือโทนสีประจำปีเป็นความคิดที่ไม่ดีครับ เพราะเทรนด์พวกนี้อยู่ไม่กี่ปีก็จะกลายเป็นของเก่าไป นอกจากนั้นเราจะพบว่ามีโลโก้หน้าตา โทนสีคล้าย ๆ เราเต็มไปหมดอีกด้วย 15 มีสตอรี่มีเรื่องราว โลโก้เป็นหน้าตาในส่วนแรกของบริษัทที่ลูกค้าจะดู จึงไม่จาเป็นต้องออกแบบให้ดูดีมากมายแต่ควรที่จะต้องออกแบบให้สื่อความหมายได้ และทำให้คนจดจำได้ง่ายเพราะโลโก้จะอยู่กับธุรกิจหรือแบรนด์นั้นๆไปตลอด 16 ห้ามออกแบบโลโก้คล้ายกับคู่แข่ง
การที่เราไปออกแบบโลโก้คล้ายกับแบรนด์อื่น ๆ ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกที่จะจำแบรนด์ท่ีดัง ๆ เท่านั้น โดยไม่สนใจใยดีในแบรนด์อื่น ๆ อาจจะรวมถึงแบรนด์ของคุณด้วย ด้วยเหตุนี้คุณควรที่จะออกแบบโลโก้ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ซ้ำใคร เพื่อสร้างให้แบรนด์ของเรานั้นแข็งแรงด้วยตัวเอง 17 ผ่านการคิดอย่างรอบคอบ หลายคนลงมือทำโลโก้ไปโดยที่ยังไม่มีจุดประสงค์หรือไอเดียด้วยซ้ำซึ่งมันไม่ดีเสียเลยเพราะเราต้องไม่ลืมว่าโลโก้นั้นจะต้องอยู้กับธุรกิจหรือองค์กรนั้นต่อไปอีกนาน เพราะงั้นก่อนเริ่มทำโลโก้ทุกครั้งควรจะต้องคิดให้รอบคอบในทุกๆอย่างหรือทุกองค์ประกอบเสียก่อน 18 ต้องมีการออกแบบวางแผนสิ่งต่างไว้แล้ว ก่อนที่คุณจะเริ่มออกแบบโลโก้ คุณต้องวางแผนการสร้างแบรนด์ รวมไปถึงเรื่อง Brand Equity, Brand Image, Brand Knowledge และสิ่งอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างแบรนด์เสียก่อน เพราะการวางแผนสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้เราสามารถออกแบบโลโก้ของเราได้ตรงกับสิ่งที่เราเป็นมากที่สุด 19 เหมาะกับบริษัทของเรามากที่สุด
โชคไม่ดีนักที่ไม่มีรูปแบบโลโก้ครอบจักรวาลที่จะเหมาะกับทุกๆ คน โลโก้ชนิดไหนจะเหมาะกับใครนั้นขึ้นอยู่กับชื่อและสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อออกมา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีบริษัทที่มีชื่อสั้นๆ อย่าง eBay โลโก้ประเภท wordmark หรือที่เรียกว่า logotype ก็ถือว่ามีความเหมาะสม นอกจากนี้โลโก้ประเภท wordmarks และ letterform จะทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำชื่อของคุณได้ดีกว่าโลโก้แบบนามธรรม แต่ถ้าคุณต้องการจะใช้โลโก้แบบนามธรรมกับบริษัทของคุณแล้วคุณจะต้องแน่ใจว่า logo นั้นสะท้อนถึงบุคลิกของแบรนด์ของคุณได้อย่างดี 20 การใช้งานนำไปแสดงที่ไหนบ้าง
คำถามที่ดีกว่าคือ "ที่ไหนบ้างที่ไม่ควรนำโลโก้ไปแสดง" เพราะคุณคงไม่ต้องการให้มีโลโก้ติดอยู่ทุกที่ที่มองเห็นแน่ๆ ในโลกไซเบอร์นั้นโดยทั่วไปโลโก้จะถูกนำมาใช้งานบนเว็บไซต์และบน social media เช่น Facebook, Twitter, Instagram และ Pinterest
สำหรับในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นการติดโลโก้ที่ประตูหน้าทางเข้า บรรจุภัณฑ์ เครื่องแบบ เครื่องใช้สำนักงาน นามบัตร และหัวกระดาษเอกสารรวมไปถึงสัญญาก็เพียงพอแล้ว